ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

EPISODE 4 ยังไม่เบื่อ

 

March talk

เปลือกตาค่อย ๆ ขยับเปิดขึ้นหลังจากที่รู้สึกตัวตื่นมาได้สักพัก และทันทีที่ขยับตัวความรู้สึกปวดตุบ ๆ ที่หัวก็แล่นเข้าเล่นงาน

"อา...." 

เสียงครางตอบรับความเจ็บ ก่อนจะยกมืออีกข้างขึ้นนวดขยับ พลางขยับเปลือกตาถี่เพื่อปรับโฟกัสให้ชินกับแสงในห้อง

"!?"

หากแต่เอวที่เพิ่งถูกกระชับแขนกอด พร้อมกับศีรษะเล็กทุยที่กดซบแนบอก ทำให้ผมกดสายตาลงมองผู้หญิงคนนี้ด้วยความสงสัยว่าเธอเป็นใครกัน

"!!...โซเฟีย" ผมเรียกชื่อเธออย่างตกใจ พร้อมกับหัวใจที่อยู่ ๆ ก็เต้นแรงขึ้นมาหลังจากที่สติได้รับรู้ถึงความใกล้ชิดของร่างกาย ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นผมคงไม่รู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้

"เช้าแล้วเหรอ?" น้ำเสียงหวานแหบแห้งเอ่ยถามทั้งที่ยังไม่ผละหน้าที่ซุกอยู่ออก

"น่าจะเช้าแล้วล่ะ" หลังจากที่ได้รับคำตอบ เจ้าตัวก็เงยหน้าขึ้นมองผม โดยที่ความแนบชิดของร่างกายมันทำให้ใบหน้าของเราขยับใกล้กันไปโดยปริยาย

"ไหนบอกว่ามีสอนเช้า..."

"!!...จริงด้วย" ให้ตาย เมื่อคืนผมดื่มไปเยอะมาก แล้ววันนี้จะมีสติสอนนักศึกษาหรือเปล่าเนี่ย!?

"นายรีบไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวฉันให้ลูกน้องเอาชุดมาเปลี่ยนให้"

"อือ..." 

ถึงจะพูดไปแบบนั้นก็เถอะ แต่โซเฟียก็ยังไม่ยอมปล่อยมือที่กอดเอวผมไว้อยู่ดี แถมยังกดหน้ากลับซุกอกผมเหมือนเดิมอีกต่างหาก

"โซเฟีย" ผมกระซิบเรียกเธอเบา ๆ 

"อือ รู้แล้ว" เธอปล่อยมือที่กอดเอวผมอยู่ออก ก่อนจะนอนตะแคงหน้าไปอีกทาง ในขณะที่ผมเร่งรีบเดินเข้าห้องน้ำไป ปิดและล็อกมันอย่างแน่นหนา ก่อนจะพิงหลังกับประตูไว้แล้วยกมือขึ้นกุมเสื้อบริเวณข้างซ้ายเมื่อรับรู้ถึงแรงถี่รัวจากหัวใจที่ทำงานอย่างหนัก

ความรู้สึกแบบนี้...หรือว่าผมเป็นโรคที่เขาฮอตฮิตเป็นกันล่ะ โรคหัวใจน่ะ

.

.

"ฉันช่วยนะ"

โซเฟียดันตัวลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินมาหาผมพร้อมกับเอื้อมมือมาผูกเนกไทให้ ความสวยงามของคนตรงหน้าตรึงสายตาของผมให้ไม่อาจละไปจากเธอได้ ยิ่งได้มองใกล้ ๆ ผมก็รู้สึกว่าความสวยของเธอมีอิทธิผมต่อผมได้เสมอ ไม่ว่าจะตอนไหนก็ตาม

ผิวขาวกระจ่างใส ดวงแก้มสีชมพูอ่อนระเรื่อ จมูกเรียวเล็กเชิดขึ้น แพขนตายาวหนาล้อมกรอบดวงตากลมโต ปากอวบอิ่มสีเชอร์รีน่าสัมผัส ทุกสิ่งทุกอย่างที่หลอมรวมออกมาเป็นผู้หญิงตรงหน้าผมคนนี้ช่างสมบูรณ์แบบ ไม่สามารถข้อติต่อความสวยของเธอได้เลย

"เสร็จแล้วล่ะ"

เสียงของเธอราวกับเรียกสติที่กำลังลุ่มหลงไปกับความงามให้ต้องวิ่งกลับมา ดวงตาคู่หวานช้อนขึ้นสบตากับผมที่มีส่วนสูงมากกว่า ก่อนที่มือเรียวทั้งสองจะวางทาบกับบ่า

"เป็นยังไงบ้าง? ชุดใส่พอดีใช่ไหม?" เธอเริ่มเปิดประเด็นถามถึงชุดที่เธอเป็นคนจัดการหาให้ผม

"อื้ม ใส่ได้พอดี เหมือนฉันเป้นคนไปเลือกเองเลยล่ะ"

":)"

รอยยิ้มนั่น...เธอกำลังปั่นหัวผมเล่นหรือไง

"เสื้อผ้านี่เป็นของแบรนด์ไหนเหรอ? ตอนฉันใส่ ฉันไม่เห็นป้ายแบรนด์เลย"

"เป็นเสื้อที่ฉันตัดเองน่ะ"

"!?"

"ที่ไม่มีป้ายแบรนด์ เพราะว่าฉันยังไม่ได้คิด"

"หืม?"

"ก็อย่างที่ฉันบอกเลย ฉันตั้งใจจะกลับมาเปิดห้องเสื้อที่นี่เป็นที่แรก" เธอหมุนตัวกลับไปเพื่อหันไปหยิบกล่องกำมะหยี่สีดำขึ้นมา

"เข็มกลัดหงส์เงินอันนี้ เป็นเข็มกลัดที่ฉันตั้งใจออกแบบให้นายเลยนะ" มือเรียวหยิบเข็มกลัดติดสูทซึ่งมีลักษณะเป็นสีเงินหรูหราขึ้นมาติดให้ผมตรงคอปกเสื้อ

"ออกแบบ...ให้ฉันเหรอ?" ผมทวนถามด้วยหัวใจที่เต้นถี่รัว ความรู้สึกเหมือนถูกให้ความสำคัญ มันทำให้ผมดีใจมากจริง ๆ

"ใช่ ตอนที่ฉันฟังตำนานเกี่ยวกับหงส์ตอนแรกมันทำให้ฉันนึกถึงนาย นายรู้หรือเปล่าว่าหงส์หมายถึงอะไร?"

"เป็นสัญลักษณ์ของความสง่างาม ความสูงศักดิ์อะไรแบบนั้นหรือเปล่า?" เธอฟังคำตอบจากผมก่อนจะระบายยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวานและเริ่มพูดต่อ

"นอกจากนั้นส่วนต่าง ๆ ของหงส์ยังเป็นตัวแทน 5 อย่างของคุณสมบัติของมนุษย์"

"...." สายตาของเราทั้งสองประสานกันอย่างไม่มีใครหลีกเลี่ยง ราวกับต้องการท่ายถอดความรู้สึกบางอย่างให้อีกฝ่ายได้รับรู้

"ส่วนหัวเป็นตัวแทนของคุณงามความดี ความเป็นคนมีความรู้"

"....."

"ส่วนปีกเป็นตัวแทนของความรับผิดชอบในหน้าที่การงาน"

"...." 

"ส่วนหลังเป็นตัวแทนของความประพฤติที่ถูกที่ควร"

"...."

"ส่วนอกเป็นตัวแทนของความเป็นมนุษย์ที่รู้จักผิดชอบชั่วดี"

"...."

"ส่วนท้องเป็นตัวแทนของความน่าเชื่อถือและความน่าไว้วางใจ"

"...."

"ในฐานะที่นายเองก็ต้องเป็นแบบอย่างของความดีและความถูกต้อง ฉันจึงอยากให้เข็มกลัดนี้กับนายเพื่อเตือนใจนายเอาไว้เสมอว่า จงเป็นแบบอย่างให้อนาคตของชาติเติบโตมาเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ"

"ขอบคุณนะ"

":)"

"ฉันว่านายรีบไปเถอะ เดี๋ยวจะสาย" โซเฟียก้าวเท้าถอยไปด้านหลังหนึ่งก้าว

"!?" แต่ผมกลับเอื้อมมือไปรั้งเอวของเธอให้เข้ามาใกล้ จนร่างกายของเราแทบแนบชิดสนิทกัน

"ขอโทษที่ฉันพูดไม่ดีกับเธอเมื่อคืน"

"...."

"ความจริงแล้วชุดที่เธอใส่เมื่อคืนมันสวยมาก"

"!!!"

"ฉันเองต่างหากที่งี่งเ่ากับเธอเอง ขอโทษนะ" คำว่า'ขอโทษ'สำหรับผมมันพูดมากจริง ๆ แต่ถ้าหากคำ ๆ นี้จะสามารถแลกความรู้สึกของเธอที่เสียไปให้กลับมาได้ ต่อให้ต้องพร่ำพูดคำนี้อีกสักกี่ครั้งผมก็จะทำ

"อื้ม :)" แต่ดูเหมือนว่าเธอจะยกโทษให้ผมนานแล้วล่ะ

":)" ยังน่ารักไม่เปลี่ยนเลยนะ

"ฉันมีคำถาม"

"ว่ามาสิ"

"เคสโทรศัพท์ของนาย ใช่อันเดียวกันกับที่ฉันเคยซื้อให้หรือเปล่า"

"!?" ผมชะงักเล็กน้อยเมื่อต้องเจอกับคำถามที่ไม่คาดคิด

"ว่าไงล่ะ?" ยิ่งถูกเร่งเร้าผมก็ยิ่งรู้สึกประหม่า

"ก็...อันเดียวกันนั่นแหละ"

"ทำไมถึงยังใช้อยู่ล่ะ? มันเก่ามากแล้วนะ"

"...." ขอร้องล่ะ เปลี่ยนคำถามได้ไหม? ผมรู้สึกว่าคำถามมันยากไป ไม่สิ!! คำถามมันไม่ได้ยากหรอก แต่เป็นผมเองต่างหากล่ะ ที่ไม่อยากตอบ

"ไม่สิ ที่จริงฉันต้องถามว่าทำไมถึงยังใช้โทรศัพท์รุ่นนี้อยู่อีกล่ะ? มันจะตกรุ่นแล้วนะ"

"ฉันแต่ยังไม่เบื่อ"

"ไม่จริงอะ นายขี้เบื่อจะตาย เมื่อก่อนฉันเห็นนายเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่แทบจะทุกสัปดาห์เลยด้วย"

"ก็ถ้าวันหนึ่งเราเจอรุ่นโทรศัพท์ที่ถูกใจ ไม่ว่าต่อไปเราจะไปเจอโทรศัพท์รุ่นใหม่อีกมากแค่ไหน สุดท้ายเราก็จะติดใจกลับมาใช้เครื่องเก่าอยู่ดี"

"....."

"และฉันว่าฉันเจอแล้วนะ...โทรศัพท์ที่ฉันถูกใจ"

"...." ดวงตาของเธอกะพริบถี่ ราวกับกำลังทำความเข้าใจคำพูดของผม ซึ่งผมเชื่อว่าอีกไม่นานเธอจะเข้าใจเองว่าจริง ๆ แล้วสิ่งที่ผมพูด ผมไม่ได้หมายถึงโทรศัพท์

"และเคสนี้ที่ฉันยังใช้อยู่ ก็เพราะว่าฉันชอบมัน"

"...."

"และฉันชอบมัน เพราะเธอเป็นคนซื้อให้"

"นายหมายความว่านายจะชอบ ถ้าฉันเป็นคนซื้อให้"

"ใช่"

"นี่มันไม่ได้ชอบที่ของแล้ว ชอบคนซื้อให้มากกว่า"

"อือ...ชอบ"

"!!!"

March talk end

To be continued


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

EPISODE 1 น้องสาวที่หายไป

   March talk ผมกวาดสายตามองตัวอักษรที่ร้อยเรียงเป็นประวัติของเด็กผู้หญิงที่ชื่อว่า 'หนึ่งวารี พัชรสกุลกิจ' ด้วยความสงสัยต่อความจริงในบางอย่างที่เต็มตื้นขึ้นมา ชื่อที่คุ้นเคย นามสกุลที่คุ้นหู ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายกับแม่ ทำให้ผมไม่อาจมองข้ามไปได้ เธอเป็นใครกันแน่?... แล้วเธอ...ใช่น้องสาวที่หายไปของผมหรือเปล่า? คำถามพวกนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของผมซ้ำ ๆ สร้างความรู้สึกกระวนกระวายใจให้ผมเป็นอย่างมาก จนต้องตัดสินใจโทรหาใครสักคนที่จะช่วยทำให้ความจริงมันกระจ่างขึ้นมาบ้าง "ว่า?" ปลายสายรับสายของผมด้วยน้ำเสียงงัวเงียเล็กน้อย "เควส ตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน?"  "ระดับนี้ ก็ต้องอยู่บ้านหญิงสิครับ" "=_=" ซึ่งคำตอบของมันก็ทำให้ผมแอบชักสีหน้าเบื่อหน่าย อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว ยังไม่ลด ละ เลิกอีกนะมัน "ว่าแต่มึงมีอะไรวะ? โทรหากูเช้าขนาดนี้? หาว...." พูดจบประโยคก็ยังไม่วายมีเสียงหาวมาเป็นคนสร้อย "เช้าเหี้ยอะไร!? จะเที่ยงอยู่แล้วไอ้ห่า" "อ้าวเหรอ? ก็ไม่รู้อะ เพิ่งตื่น" "=_=" "นี่คือมึงโทรมาแค่จะด่ากูช้ะ? กูจะได้วาง...

EPISODE 2 เรื่องทะเลาะ

March talk ทันทีที่เดินเข้ามาถึงด้านในสายตาของผมต้องหรี่ลงเล็กน้อยเพราะแสงไฟวูบวาบบริเวณด้านในแอบทำให้ผมปรับโฟกัสไม่ทัน ผมกวาดมองรอบ ๆ ตัวด้วยความรู้สึกที่คุ้นเคยแต่ทว่าห่างหายไปนาน ตั้งแต่เข้าบริหารงานโรงเรียนและมหาวิทยาลัยแทนป๊าเต็มตัวผมก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่อีกเลย จำได้ว่าครั้งล่าสุดน่าจะเป็นเมื่อประมาณปีที่แล้วตอนปิดภาคเรียนที่ 1 เนื่องจากผับแห่งนี้เป็นหนึ่งในธุรกิจของตระกูลถาวรเดชาฤทธิ์ และผมเองก็สนิทกับทายาททั้งสองของตระกูลนี้ดี เลยได้มีโอกาสมาเที่ยวที่นี่อยู่บ่อยครั้ง แม้จะไม่ได้มานาน แต่ผมก็ยังคงจดจำรายละเอียดของที่นี่ได้อย่างชัดเจน รู้...แม้กระทั่งทางลัดที่จะไปยังห้อง VIP ได้โดยไม่ต้องผ่านฝูงชนไปให้มากมาย "อ๊ะ!!" "!!!" แต่ในจังหวะที่ผมกำลังหมุนตัวเพื่อเดินเลี่ยงไปอีกทางนั้น ร่างของผมก็ไปชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินสวนมาอีกทาง และร่างเพรียวบางนั้นกำลังหงายล้มไปด้านหลัง ซึ่งโชคดีที่ผมคว้าเอวของเธอและดึงเข้าตัวไว้ได้ทันก่อนที่ร่างอรชรจะได้รับบาดเจ็บ "ขอบคุณค่ะ" น้ำเสียงเสนาะคุ้นหูรีบทำให้ผมช้อนสายตาขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยหัวใจที่เต้นถี่รัว "!?...โซเฟ...

EPISODE 5 อันตราย

  Sofia talk "อือ...ชอบ" ฉันวางดินสอในมือลง ก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้า เมื่อเสียงของมาร์ชที่เคยพูดกับฉันยังคงดังก้องซ้ำ ๆ อยู่ในหัวไม่หายไปไหน "=//=" หัวใจที่พาลเต้นแรงขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ทำเอาฉันไม่มีสมาธิทำงานทำการเอาเสียเลย "แกเป็นเพื่อนฉันนะ ฉันจะเกลียดแกได้ไง" แต่ในเวลาต่อมาความรู้สึกนั้นก็ถูกกระชากไป เพราะมีประโยคอื่นในบทสนทนาแทรกเข้ามาแทน "ไอ้มาร์ช!! ไอ้บ้า!!" ฉันรู้ว่าเขาไม่ผิด แต่มันผิดที่ฉันที่ไปหลงดีใจกับคำบอกชอบนั่นเอง พอได้แล้วโซเฟีย....เลิกคิดมากได้แล้ว แกกับเขาไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากเพื่อนกัน ฉันหอบเอาหัวใจที่ห่อเหี่ยวกลับมาจดจ่อตั้งใจกับงานตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนที่เสียงเปิดประตูโดยไม่มีการเคาะจะเรียกสายตาของฉันให้ช้อนขึ้นมอง "นี่เป็นนางแบบที่แกให้ฉันไปหา" จริงใจที่ตอนนี้มีฐานะเป็นหุ้นส่วนของฉันส่งแฟ้มปกสีดำมาให้ ก่อนที่เธอจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม "คนอื่นฉันไม่มีปัญหา แต่ฉันติดอยู่คนสุดท้ายที่ชื่อ 'พอลล่า' เธอไม่ใช่นางแบบนี่" จากที่ฉันกวาดสายตาอ่านประวัติของผู้หญิงคนนี้คร่าว ๆ เธอเหมือนจะเป็นน...