Sofia talk
ฉันเดินกลับที่โต๊ะเมื่อรู้สึกว่าเต้นจนเกนื่อยแล้ว
"...."
หากแต่เท้าของฉันก็ต้องชะงักอยู่กับที่ เมื่อเลื่อนสายตาไปเห็นมาร์ชกำลังนั่งนัวเนียอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง
"เหนื่อยแล้วล่ะสิ..." เสียงของจริงใจที่ดังฝ่าความโหวกเหวกเข้ามาที่โสตประสาทของฉัน ทำให้ฉันละสายจากภาพนั้นหันไปมองเธอ
"ขอน้ำหน่อยสิ" ฉันเดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างจริงใจ ก่อนที่เธอจะส่งยื่นขวดน้ำที่ยังไม่เปิดมาให้ฉัน ฉันเปิดฝาออก ก่อนจะกระดกขวดดื่มทั้งที่สายตายังมองไปยังอีกฝั่งของโต๊ะซึ่งที่ตรงนั้นมีมาร์ชนั่งอยู่
"ไอ้มาร์ช" เควสสะกิดเรียกเพื่อนหลังจากที่เขาเห็นว่าฉันกำลังจ้องคนทั้งสองอยู่
"อือ!! ไอ้เควสอย่ากวน 💢" แต่คนที่กำลงัลุ่มหลงอยู่ในกามอารมณ์คงไม่ได้สนใจฉันหรอก
หึ!! ที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่าเขาเปลี่ยนไป ฉันขอถอนคำพูด เมื่อก่อนสำส่อนยังไง ตอนนี้ก็ยังสำส่อนอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยน
"แกก็...เกรงใจเพื่อนบ้าง" จริงใจที่คงเอือมกับเพื่อนไม่มียางอายคนนี้เต็มทนเอ่ยปากพูด
"แล้วเธอมายุ่งเรื่องอะไรของฉัน?" มาร์ชผละหน้าของตัวเองออกมาจากซอกคอของผู้หญิงคนนั้นเพื่อมองจริงใจ หากแต่ในวินาทีต่อมาสายตาของเราก็สบประสานกัน แต่เพียงเสี้ยววิ เจ้าตัวก็เป็นฝ่ายหลบตาก่อน
"ฉันก็แค่จะแนะนำ ว่าถ้านายอยากมาก นายก็ไปเปิดห้อง จริงไหมโซ" จริงใจหันมาถามความเห็นจากฉันอย่างต้องการหาพวก
"ใช่ ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้าน อย่างน้อยก็ควรจะมียางอายติดหน้าบ้างนะ" ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนพูดแรง แต่คำพูดแรง ๆ พวกนั้นมันก็มาจากความไม่พอใจล้วน ๆ แล้วทำไมฉันจะต้องมาหงุดหงิดด้วยเนี่ย!? เขาจะกอดใคร จะจูบใคร จะนอนกับใคร ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันตรงไหนเลย
"ว่ากันแรงเกินไปแล้วนะ" สายตาคนมองตรงมาที่ฉันอย่างแฝงความรู้สึกน้อยใจ
"ก็ถ้าไม่พูดแรง นายจะคิดได้เหรอ? ว่าควรเกรงใจเพื่อน ๆ ที่ต้องมาเห็นภาพอุจาดตาแบบนี้"
"...." ร่างสูงลุกพรวดขึ้นยืน หากแต่ไม่ทันก้าวเดิน ร่างกายหนาก็เซล้มลงนั่งกับที่
"ไหวไหมคะ? ให้เคธี่พาไปพักไหม?" ยัยผู้หญิงคนนั้นก็รีบแสล๋นมารับโดยทันที
"💢💢💢" ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ!! รีบเอามือของหล่อนออกไปจากเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้
"มันเมามากขนาดนั้น เธอพามันไปพักที่ห้องเถอะ เดี๋ยวฉันเปิดให้" ธัญที่นั่งเงียบอยู่นานบอกกับยัยคนนั้น
"ค่ะ คุณธัญ" เธอพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะประคองกันเดินออกไปโดยมีฉันนั่งมองไม่วางตา
"เด็กนายเหรอ?" ฉันหันไปถามธัญ เพราะเห็นว่ายัยเคธี่อะไรนั่นดูเชื่อฟังเขา
"เคยเป็นน่ะ"
"ฉันกลับละ 💢" อยู่ ๆ ผู้หญิงที่นั่งข้างฉันก็ลุกพรวดขึ้นและเดินออกไป
"โดนงอนอีกแล้วสิ =_=" โดยมีธัญเดินตามออกไปด้วยสีหน้าสุดเซ็ง
"???" คงมีแต่ฉันที่ได้แต่มองทั้งสองด้วยความงงงวย นี่ระหว่างฉันไม่อยู่ มันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อน ๆ ของฉันบ้างเนี่ย
"เธอคงไม่รู้สินะ ว่าธัญกับจริงใจคบกัน"
"หะ!?" ฉันหันไปมองเควสอย่างตกใจกับสิ่งที่ได้รับรู้
"อื้ม คบกันมาได้ 2 ปีแล้ว"
"ก็ไหนบอกว่าคนในกลุ่มข้ามคบกันเป็นกฎไง ทำไมถึงคบกันได้ล่ะ?"
"นี่เธอไม่รู้อะไรเลยใช่ไหมเนี่ย?"
"???" ฉันมองเควสอย่างตั้งคำถาม
"หึ!!" แต่เขากลับเค้นเสียงหัวเราะในลำคอ แล้วยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่ม
"ไม่คิดจะไปดูมันหน่อยเหรอ?" เขาพูดขึ้นอีกรอบ หลังจากที่ลดแก้วเหล้าในมือลง
"ใคร?" ถึงจะรู้อยู่แล้วก็เถอะว่าเขาหมายถึงใคร
"ไอ้มาร์ชไง มันเมาหัวราน้ำขนาดนั้น ก็ต้องมีคนมาดูแลสิ"
"เขามีผู้หญิงคนนั้นดูแลอยู่แล้ว ฉันไม่ต้องไปหรอก"
"แต่ยังไงเธอก็ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี ถึงจะเคยเป็นเด็กไอ้ธัญมาก่อน และไอ้ธัญมันก็ไว้ใจให้เธอพามันไปพัก แต่ฉันไม่ไว้ใจ"
"ถ้านายไม่ไว้ใจ นายก็ไปเองสิ"
"ฉันไม่ว่าง"
"ไม่ว่าง?"
เควสตอบข้อสงสัยของฉันด้วยการชี้นิ้วไปหาผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่กับเพื่อนอีกฝั่ง ซึ่งอีกฝ่ายก็กำลังส่งสายตาแฝงนัยบางอย่างมาที่เควสเหมือนกัน
"ฉันไปก่อนนะ แล้วเจอกัน"
ไม่ถึงนาทีเจ้าตัวก็ตัดสินใจลุกออกไป
อา...ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ฉันคนเดียวแล้วสิ ก็แบบนี้แหละ...งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฉันก็ควรจะกลับแล้วเหมือนกัน
ฉันกำลังจะลุกออกไป ถ้าสายตาไม่ได้เหลือบไปเห็นโทรศัพท์เครื่องดำเครื่องหนึ่งวางคว่ำหน้าไว้อยู่บนโต๊ะ ฉันหยิบมันขึ้นมาพิจารณาดูความรู้สึกคุ้นคา
เคสสีดำกากเพชรแบบนี้ ฉันจำได้ มันคือเคสโทรศัพท์ที่ฉันเคยซื้อให้มาร์ชตอนที่เราไปเที่ยวทะเลด้วยกันตอนปี 4 เพื่อฉลองเรียนจบและเลี้ยงส่งฉันไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส
"ยังใช้อยู่อีกเหรอ? มันนานมากแล้วนะ"
ถึงแม้โทรศัพ์รุ่นนี้จะไม่ตกรุ่นไปง่าย ๆ แต่คนขี้เบื่ออย่างมาร์ช ไม่มีทางใช้ของเก่าซ้ำ ๆ จำเจแบบนี้หรอก
แต่ที่เขาไม่ยอมเปลี่ยน และใช้แต่เคสอันนี้มาตลอด 6 ปี มันหมายความว่ายังไงล่ะ?
"ยังไงก็ต้องเอาโทรศัพท์ไปคืนอยู่แล้ว ไปดูสักหน่อยละกัน"
สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจไม่กลับบ้านตอนนี้
.
.
"นี่ครับคุณหนู" ฉันมองพนักงานของผับซึ่งมีฐานะเป็นลูกน้องของฉันอีกทีกำลงัยื่นคีย์การ์ดสำรองของห้องให้ฉัน
ติ๊ด!!
ฉันรับมาก่อนจะแตะคีย์การ์ดและบิดคันประตูเปิดเข้าไป
"!!!" ยัยเคธี่หันมามองฉันอย่างตกใจ ก่อนจะชักมือที่กำลังปลดกระดุมเสื้อของมาร์ชออก
"จัดการมัน" ฉันหันไปออกคำสั่งกับลูกน้องที่เดินเข้ามาด้วย
"!!!"
"รับคำสั่งครับ" ลูกน้องของฉันเดินเข้าไปล็อคตัวยัยนั่น ก่อนจะใช้แรงกระชากร่างนั้นให้ถอยห่างจากร่างของมาร์ช
"นี่!! ปล่อยฉันนะ!!" เธอพยายามดิ้มเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ก็นั่นแหละ...ยังไงเธอก็ไม่สามารถสู้แรงลุกน้องของฉันที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดีได้หรอก
"เอารุนแรงระดับไหนดีครับคุณหนู"
"แค่จับมันโยนออกไปก็พอ"
"ครับ"
"กรี๊ดดดดด ปล่อยฉัน!!!"
ฉันเดินไปปิดประตูห้อง ก่อนจะเดินมาวางโทรศัพท์ของมาร์ชที่เคยลืมไว้ที่หัวเตียง ทอดสายตามองสภาพคนเมาก็ได้แต่ถอนหายใจ พลางทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่ม ยื่นมือออกไปหวังจะสัมผัสใบหน้าหล่อเหลาด้วยความรู้สึกคิดถึง
"...."
หากแต่ยังไม่ทันได้แตะต้อง
"ฉันไม่มีทางคิดแบบนั้นกับยัยโซเฟียแน่"
"งั้นพี่ก็สัญญามาสิ ว่าพี่จะไม่ยุ่งกับเจ้ของผม"
"เออ!!"
ถ้อยคำในอดีตที่มาร์ชเคยพูดไว้กับเซฟานน้องชายของฉันก็ดังก้องขึ้นมาในหัว พานทำให้ฉันชะงักมือในวินาทีต่อมา
ไม่ได้นะโซเฟีย...
เสียงหนึ่งดังขึ้นร้องห้ามอยู่ในใจ และมันทำให้ฉันได้สติว่าฉันไม่ควรทำแบบนี้เลย ไม่ควรรู้สึกอะไรเกินเลยกับเขามากกว่าคำว่า 'เพื่อน'
ฉันตัดสินใจชักมือกลับ ก่อนจะเหยียดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อจะออกไปจากที่นี่
หมับ!!
หากแต่ข้อมือที่ถูกคว้าไว้ ทำให้ฉันหันกลับไป
"โซเฟีย..." คนเมาพยายามลืมตาเพื่อมองฉันให้ชัด ๆ
"...."
"เธอจริง ๆ ใช่ไหม?" เสียงของเขายานคางราวกับคนไม่มีสติ
"...."
"เป็นเธอจริง ๆ ด้วย"
"!!!"
และคนไม่มีสติก็มักจะทำอะไรที่ไม่คาดคิดเสมอ เพราะว่าเขาเพิ่งใช้แรงกระตุกแขนของฉันให้ล้มลงไปนอนข้าง ๆ
"มาร์ช!!" พลางใช้วงแขนกอดรัดพันธการร่างของฉันให้แนบชิด โดยมีขาที่พาดก่ายช่วยอีกแรง
"อือ..."
"!!!!" ฉันตกใจอย่างสุดขีดเมื่อปลายจมูกโด่งกดโดนซอกคอ ก่อนจะตามมาด้วยสัมผัสนุ่มหยุ่นที่ซับอยู่เหนือหัวไหล่เปลือยเปล่าของฉัน
มาร์ชดันตัวขึ้นมาอยู่เหนือร่าง สอดประสานสายตากับฉันที่อยู่ใต้ร่างของ ก่อนที่มือหนาจะเลื่อนขึ้นมาสัมผัสผิวแก้มอย่างแผ่วเบา
"ทำไมกันนะ?"
"!?" สายตาหวานซึ้งที่กำลังจ้องมองมันเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ หรือเป็นเพราะประโยคที่เขากำลงัพูดในประโยคต่อไปกันล่ะ
"ทำไมฉันถึงต้องคิดถึงเธอขนาดนี้?"
"!!!" เพียงแค่เสี้ยววิที่หัวใจเหมือนถูกกระชากออกไป ในเวลาต่อมามันก็เต้นแรงอย่างรวดเร็ว
"เพิ่งมารู้ว่าอยู่ห่างเธอแม่งโคตรทรมาน"
"...."
"ไม่ให้ไปไหนแล้วนะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ยอมแยกจากเธออีกต่อไปแล้ว"
"!!!" ริมฝีปากบางกดจูบลงมาที่แก้มข้างขวาของฉัน
"คืดถึง" ก่อนจะสลับมาที่แก้มอีกข้างหลังจากที่พูดประโยคนี้จบ
เราสองคนสบตากันผ่านแสงสลัวจากโคมไฟหัวเตียงในห้องราวกับสร้างบรรยากาศที่เป็นให้หน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้โดยมีจุดประสงค์เพื่อฝากความอุ่นนุ่มไว้ที่ริมฝีปากของฉัน
"ฉันไม่มีทางคิดแบบนั้นกับยัยโซเฟียแน่"
"!?"
แต่ก่อนที่อะไร ๆ จะบานปลาย ฉันหันหน้าหลบได้ทัน ทำให้ริมฝีปากของคนด้านบนฝังเข้ากับผิวแก้มแทน
"อย่าทำแบบนี้เลย นายจะเสียใจทีหลังนะ" ฉันพูดทั้งที่ยังมองไปทางอื่น
"...." จนกระทั่งรู้สึกว่าคนบนร่างบัดนี้ได้เคลื่อนตัวลงมานอนข้าง ๆ แทนแล้ว
"!!!!" แต่ก็ยังไม่วายรั้งเอวของฉันเข้าไปกอด พร้อมซุกหน้าหล่อกับซอกคอของฉัน
"มาร์ช!" ฉันพยายามดิ้มเพื่อให้เขาปล่อย แต่คนดื้อกลับยิ่งกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นไปอีก
"ไม่ให้จูบ อย่างน้อยก็ขอกอดให้หานคิดถึงหน่อยเถอะ"
"....." แต่คำพูดต่อมาก็ราวกับลบล้างทุกแรงต่อต้านของฉันให้เหลือทิ้งไว้เพียงความนิ่งเฉย ฉันเลื่อนสายตาไปมองเขาที่ตอนนี้เปลือกตาปิดสนิท พร้อม ๆ กับลมหายใจที่เริ่มเข้าออกอย่างสม่ำเสมอยืนยันว่าเขาได้หลับไปแล้ว แต่แขนก็ยังพาดกอดเอวฉันแน่ไม่ยอมปล่อย
แล้วจะทำยังไงดีล่ะทีนี้....
ถึงฉันและเขาจะเคยนอนกอดกันมาแล้วเพราะเราชอบปาร์ตี้ด้วยกันอยู่บ่อย ๆ เลยมีโอกาสให้เราได้นอนบนเตียงเดียวกัน แต่ตอนนั้นฉันยังไม่ได้คิดอะไรไง
Sofia talk end
To be continued
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น