ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

EPISODE 3 ไม่เคยเปลี่ยน

Sofia talk

ฉันเดินกลับที่โต๊ะเมื่อรู้สึกว่าเต้นจนเกนื่อยแล้ว

"...."

หากแต่เท้าของฉันก็ต้องชะงักอยู่กับที่ เมื่อเลื่อนสายตาไปเห็นมาร์ชกำลังนั่งนัวเนียอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง

"เหนื่อยแล้วล่ะสิ..." เสียงของจริงใจที่ดังฝ่าความโหวกเหวกเข้ามาที่โสตประสาทของฉัน ทำให้ฉันละสายจากภาพนั้นหันไปมองเธอ

"ขอน้ำหน่อยสิ" ฉันเดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้างจริงใจ ก่อนที่เธอจะส่งยื่นขวดน้ำที่ยังไม่เปิดมาให้ฉัน ฉันเปิดฝาออก ก่อนจะกระดกขวดดื่มทั้งที่สายตายังมองไปยังอีกฝั่งของโต๊ะซึ่งที่ตรงนั้นมีมาร์ชนั่งอยู่

"ไอ้มาร์ช" เควสสะกิดเรียกเพื่อนหลังจากที่เขาเห็นว่าฉันกำลังจ้องคนทั้งสองอยู่

"อือ!! ไอ้เควสอย่ากวน 💢" แต่คนที่กำลงัลุ่มหลงอยู่ในกามอารมณ์คงไม่ได้สนใจฉันหรอก

หึ!! ที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่าเขาเปลี่ยนไป ฉันขอถอนคำพูด เมื่อก่อนสำส่อนยังไง ตอนนี้ก็ยังสำส่อนอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยน

"แกก็...เกรงใจเพื่อนบ้าง" จริงใจที่คงเอือมกับเพื่อนไม่มียางอายคนนี้เต็มทนเอ่ยปากพูด

"แล้วเธอมายุ่งเรื่องอะไรของฉัน?" มาร์ชผละหน้าของตัวเองออกมาจากซอกคอของผู้หญิงคนนั้นเพื่อมองจริงใจ หากแต่ในวินาทีต่อมาสายตาของเราก็สบประสานกัน แต่เพียงเสี้ยววิ เจ้าตัวก็เป็นฝ่ายหลบตาก่อน

"ฉันก็แค่จะแนะนำ ว่าถ้านายอยากมาก นายก็ไปเปิดห้อง จริงไหมโซ" จริงใจหันมาถามความเห็นจากฉันอย่างต้องการหาพวก

"ใช่ ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้าน อย่างน้อยก็ควรจะมียางอายติดหน้าบ้างนะ" ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนพูดแรง แต่คำพูดแรง ๆ พวกนั้นมันก็มาจากความไม่พอใจล้วน ๆ แล้วทำไมฉันจะต้องมาหงุดหงิดด้วยเนี่ย!? เขาจะกอดใคร จะจูบใคร จะนอนกับใคร ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันตรงไหนเลย

"ว่ากันแรงเกินไปแล้วนะ" สายตาคนมองตรงมาที่ฉันอย่างแฝงความรู้สึกน้อยใจ

"ก็ถ้าไม่พูดแรง นายจะคิดได้เหรอ? ว่าควรเกรงใจเพื่อน ๆ ที่ต้องมาเห็นภาพอุจาดตาแบบนี้"

"...." ร่างสูงลุกพรวดขึ้นยืน หากแต่ไม่ทันก้าวเดิน ร่างกายหนาก็เซล้มลงนั่งกับที่

"ไหวไหมคะ? ให้เคธี่พาไปพักไหม?" ยัยผู้หญิงคนนั้นก็รีบแสล๋นมารับโดยทันที

"💢💢💢" ฉันจะไม่ไหวแล้วนะ!! รีบเอามือของหล่อนออกไปจากเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้

"มันเมามากขนาดนั้น เธอพามันไปพักที่ห้องเถอะ เดี๋ยวฉันเปิดให้" ธัญที่นั่งเงียบอยู่นานบอกกับยัยคนนั้น

"ค่ะ คุณธัญ" เธอพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะประคองกันเดินออกไปโดยมีฉันนั่งมองไม่วางตา

"เด็กนายเหรอ?" ฉันหันไปถามธัญ เพราะเห็นว่ายัยเคธี่อะไรนั่นดูเชื่อฟังเขา

"เคยเป็นน่ะ"

"ฉันกลับละ 💢" อยู่ ๆ ผู้หญิงที่นั่งข้างฉันก็ลุกพรวดขึ้นและเดินออกไป

"โดนงอนอีกแล้วสิ =_=" โดยมีธัญเดินตามออกไปด้วยสีหน้าสุดเซ็ง

"???" คงมีแต่ฉันที่ได้แต่มองทั้งสองด้วยความงงงวย นี่ระหว่างฉันไม่อยู่ มันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อน ๆ ของฉันบ้างเนี่ย

"เธอคงไม่รู้สินะ ว่าธัญกับจริงใจคบกัน"

"หะ!?" ฉันหันไปมองเควสอย่างตกใจกับสิ่งที่ได้รับรู้

"อื้ม คบกันมาได้ 2 ปีแล้ว"

"ก็ไหนบอกว่าคนในกลุ่มข้ามคบกันเป็นกฎไง ทำไมถึงคบกันได้ล่ะ?"

"นี่เธอไม่รู้อะไรเลยใช่ไหมเนี่ย?"

"???" ฉันมองเควสอย่างตั้งคำถาม

"หึ!!" แต่เขากลับเค้นเสียงหัวเราะในลำคอ แล้วยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่ม

"ไม่คิดจะไปดูมันหน่อยเหรอ?" เขาพูดขึ้นอีกรอบ หลังจากที่ลดแก้วเหล้าในมือลง

"ใคร?" ถึงจะรู้อยู่แล้วก็เถอะว่าเขาหมายถึงใคร

"ไอ้มาร์ชไง มันเมาหัวราน้ำขนาดนั้น ก็ต้องมีคนมาดูแลสิ"

"เขามีผู้หญิงคนนั้นดูแลอยู่แล้ว ฉันไม่ต้องไปหรอก"

"แต่ยังไงเธอก็ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี ถึงจะเคยเป็นเด็กไอ้ธัญมาก่อน และไอ้ธัญมันก็ไว้ใจให้เธอพามันไปพัก แต่ฉันไม่ไว้ใจ"

"ถ้านายไม่ไว้ใจ นายก็ไปเองสิ"

"ฉันไม่ว่าง"

"ไม่ว่าง?" 

เควสตอบข้อสงสัยของฉันด้วยการชี้นิ้วไปหาผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่กับเพื่อนอีกฝั่ง ซึ่งอีกฝ่ายก็กำลังส่งสายตาแฝงนัยบางอย่างมาที่เควสเหมือนกัน

"ฉันไปก่อนนะ แล้วเจอกัน"

ไม่ถึงนาทีเจ้าตัวก็ตัดสินใจลุกออกไป

อา...ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ฉันคนเดียวแล้วสิ ก็แบบนี้แหละ...งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ฉันก็ควรจะกลับแล้วเหมือนกัน

ฉันกำลังจะลุกออกไป ถ้าสายตาไม่ได้เหลือบไปเห็นโทรศัพท์เครื่องดำเครื่องหนึ่งวางคว่ำหน้าไว้อยู่บนโต๊ะ ฉันหยิบมันขึ้นมาพิจารณาดูความรู้สึกคุ้นคา

เคสสีดำกากเพชรแบบนี้ ฉันจำได้ มันคือเคสโทรศัพท์ที่ฉันเคยซื้อให้มาร์ชตอนที่เราไปเที่ยวทะเลด้วยกันตอนปี 4 เพื่อฉลองเรียนจบและเลี้ยงส่งฉันไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส

"ยังใช้อยู่อีกเหรอ? มันนานมากแล้วนะ"

ถึงแม้โทรศัพ์รุ่นนี้จะไม่ตกรุ่นไปง่าย ๆ แต่คนขี้เบื่ออย่างมาร์ช ไม่มีทางใช้ของเก่าซ้ำ ๆ จำเจแบบนี้หรอก

แต่ที่เขาไม่ยอมเปลี่ยน และใช้แต่เคสอันนี้มาตลอด 6 ปี มันหมายความว่ายังไงล่ะ?

"ยังไงก็ต้องเอาโทรศัพท์ไปคืนอยู่แล้ว ไปดูสักหน่อยละกัน"

สุดท้ายฉันก็ตัดสินใจไม่กลับบ้านตอนนี้

.

.

"นี่ครับคุณหนู" ฉันมองพนักงานของผับซึ่งมีฐานะเป็นลูกน้องของฉันอีกทีกำลงัยื่นคีย์การ์ดสำรองของห้องให้ฉัน

ติ๊ด!!

ฉันรับมาก่อนจะแตะคีย์การ์ดและบิดคันประตูเปิดเข้าไป

"!!!" ยัยเคธี่หันมามองฉันอย่างตกใจ ก่อนจะชักมือที่กำลังปลดกระดุมเสื้อของมาร์ชออก

"จัดการมัน" ฉันหันไปออกคำสั่งกับลูกน้องที่เดินเข้ามาด้วย

"!!!"

"รับคำสั่งครับ" ลูกน้องของฉันเดินเข้าไปล็อคตัวยัยนั่น ก่อนจะใช้แรงกระชากร่างนั้นให้ถอยห่างจากร่างของมาร์ช

"นี่!! ปล่อยฉันนะ!!" เธอพยายามดิ้มเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุม แต่ก็นั่นแหละ...ยังไงเธอก็ไม่สามารถสู้แรงลุกน้องของฉันที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดีได้หรอก

"เอารุนแรงระดับไหนดีครับคุณหนู" 

"แค่จับมันโยนออกไปก็พอ" 

"ครับ"

"กรี๊ดดดดด ปล่อยฉัน!!!"

ฉันเดินไปปิดประตูห้อง ก่อนจะเดินมาวางโทรศัพท์ของมาร์ชที่เคยลืมไว้ที่หัวเตียง ทอดสายตามองสภาพคนเมาก็ได้แต่ถอนหายใจ พลางทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่ม ยื่นมือออกไปหวังจะสัมผัสใบหน้าหล่อเหลาด้วยความรู้สึกคิดถึง

"...."

หากแต่ยังไม่ทันได้แตะต้อง

"ฉันไม่มีทางคิดแบบนั้นกับยัยโซเฟียแน่"

"งั้นพี่ก็สัญญามาสิ ว่าพี่จะไม่ยุ่งกับเจ้ของผม"

"เออ!!"

ถ้อยคำในอดีตที่มาร์ชเคยพูดไว้กับเซฟานน้องชายของฉันก็ดังก้องขึ้นมาในหัว พานทำให้ฉันชะงักมือในวินาทีต่อมา 

ไม่ได้นะโซเฟีย...

เสียงหนึ่งดังขึ้นร้องห้ามอยู่ในใจ และมันทำให้ฉันได้สติว่าฉันไม่ควรทำแบบนี้เลย ไม่ควรรู้สึกอะไรเกินเลยกับเขามากกว่าคำว่า 'เพื่อน'

ฉันตัดสินใจชักมือกลับ ก่อนจะเหยียดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อจะออกไปจากที่นี่

หมับ!!

หากแต่ข้อมือที่ถูกคว้าไว้ ทำให้ฉันหันกลับไป

"โซเฟีย..." คนเมาพยายามลืมตาเพื่อมองฉันให้ชัด ๆ 

"...."

"เธอจริง ๆ ใช่ไหม?" เสียงของเขายานคางราวกับคนไม่มีสติ

"...."

"เป็นเธอจริง ๆ ด้วย"

"!!!" 

และคนไม่มีสติก็มักจะทำอะไรที่ไม่คาดคิดเสมอ เพราะว่าเขาเพิ่งใช้แรงกระตุกแขนของฉันให้ล้มลงไปนอนข้าง ๆ

"มาร์ช!!" พลางใช้วงแขนกอดรัดพันธการร่างของฉันให้แนบชิด โดยมีขาที่พาดก่ายช่วยอีกแรง

"อือ..."

"!!!!" ฉันตกใจอย่างสุดขีดเมื่อปลายจมูกโด่งกดโดนซอกคอ ก่อนจะตามมาด้วยสัมผัสนุ่มหยุ่นที่ซับอยู่เหนือหัวไหล่เปลือยเปล่าของฉัน

มาร์ชดันตัวขึ้นมาอยู่เหนือร่าง สอดประสานสายตากับฉันที่อยู่ใต้ร่างของ ก่อนที่มือหนาจะเลื่อนขึ้นมาสัมผัสผิวแก้มอย่างแผ่วเบา

"ทำไมกันนะ?"

"!?" สายตาหวานซึ้งที่กำลังจ้องมองมันเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ หรือเป็นเพราะประโยคที่เขากำลงัพูดในประโยคต่อไปกันล่ะ

"ทำไมฉันถึงต้องคิดถึงเธอขนาดนี้?"

"!!!" เพียงแค่เสี้ยววิที่หัวใจเหมือนถูกกระชากออกไป ในเวลาต่อมามันก็เต้นแรงอย่างรวดเร็ว

"เพิ่งมารู้ว่าอยู่ห่างเธอแม่งโคตรทรมาน"

"...."

"ไม่ให้ไปไหนแล้วนะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ยอมแยกจากเธออีกต่อไปแล้ว"

"!!!" ริมฝีปากบางกดจูบลงมาที่แก้มข้างขวาของฉัน

"คืดถึง" ก่อนจะสลับมาที่แก้มอีกข้างหลังจากที่พูดประโยคนี้จบ

เราสองคนสบตากันผ่านแสงสลัวจากโคมไฟหัวเตียงในห้องราวกับสร้างบรรยากาศที่เป็นให้หน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้โดยมีจุดประสงค์เพื่อฝากความอุ่นนุ่มไว้ที่ริมฝีปากของฉัน

"ฉันไม่มีทางคิดแบบนั้นกับยัยโซเฟียแน่"

"!?"

แต่ก่อนที่อะไร ๆ จะบานปลาย ฉันหันหน้าหลบได้ทัน ทำให้ริมฝีปากของคนด้านบนฝังเข้ากับผิวแก้มแทน

"อย่าทำแบบนี้เลย นายจะเสียใจทีหลังนะ" ฉันพูดทั้งที่ยังมองไปทางอื่น

"...." จนกระทั่งรู้สึกว่าคนบนร่างบัดนี้ได้เคลื่อนตัวลงมานอนข้าง ๆ แทนแล้ว

"!!!!" แต่ก็ยังไม่วายรั้งเอวของฉันเข้าไปกอด พร้อมซุกหน้าหล่อกับซอกคอของฉัน

"มาร์ช!" ฉันพยายามดิ้มเพื่อให้เขาปล่อย แต่คนดื้อกลับยิ่งกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นไปอีก

"ไม่ให้จูบ อย่างน้อยก็ขอกอดให้หานคิดถึงหน่อยเถอะ"

"....." แต่คำพูดต่อมาก็ราวกับลบล้างทุกแรงต่อต้านของฉันให้เหลือทิ้งไว้เพียงความนิ่งเฉย ฉันเลื่อนสายตาไปมองเขาที่ตอนนี้เปลือกตาปิดสนิท พร้อม ๆ กับลมหายใจที่เริ่มเข้าออกอย่างสม่ำเสมอยืนยันว่าเขาได้หลับไปแล้ว แต่แขนก็ยังพาดกอดเอวฉันแน่ไม่ยอมปล่อย

แล้วจะทำยังไงดีล่ะทีนี้....

ถึงฉันและเขาจะเคยนอนกอดกันมาแล้วเพราะเราชอบปาร์ตี้ด้วยกันอยู่บ่อย ๆ เลยมีโอกาสให้เราได้นอนบนเตียงเดียวกัน แต่ตอนนั้นฉันยังไม่ได้คิดอะไรไง

Sofia talk end

To be continued



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

EPISODE 1 น้องสาวที่หายไป

   March talk ผมกวาดสายตามองตัวอักษรที่ร้อยเรียงเป็นประวัติของเด็กผู้หญิงที่ชื่อว่า 'หนึ่งวารี พัชรสกุลกิจ' ด้วยความสงสัยต่อความจริงในบางอย่างที่เต็มตื้นขึ้นมา ชื่อที่คุ้นเคย นามสกุลที่คุ้นหู ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายกับแม่ ทำให้ผมไม่อาจมองข้ามไปได้ เธอเป็นใครกันแน่?... แล้วเธอ...ใช่น้องสาวที่หายไปของผมหรือเปล่า? คำถามพวกนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของผมซ้ำ ๆ สร้างความรู้สึกกระวนกระวายใจให้ผมเป็นอย่างมาก จนต้องตัดสินใจโทรหาใครสักคนที่จะช่วยทำให้ความจริงมันกระจ่างขึ้นมาบ้าง "ว่า?" ปลายสายรับสายของผมด้วยน้ำเสียงงัวเงียเล็กน้อย "เควส ตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน?"  "ระดับนี้ ก็ต้องอยู่บ้านหญิงสิครับ" "=_=" ซึ่งคำตอบของมันก็ทำให้ผมแอบชักสีหน้าเบื่อหน่าย อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว ยังไม่ลด ละ เลิกอีกนะมัน "ว่าแต่มึงมีอะไรวะ? โทรหากูเช้าขนาดนี้? หาว...." พูดจบประโยคก็ยังไม่วายมีเสียงหาวมาเป็นคนสร้อย "เช้าเหี้ยอะไร!? จะเที่ยงอยู่แล้วไอ้ห่า" "อ้าวเหรอ? ก็ไม่รู้อะ เพิ่งตื่น" "=_=" "นี่คือมึงโทรมาแค่จะด่ากูช้ะ? กูจะได้วาง...

EPISODE 2 เรื่องทะเลาะ

March talk ทันทีที่เดินเข้ามาถึงด้านในสายตาของผมต้องหรี่ลงเล็กน้อยเพราะแสงไฟวูบวาบบริเวณด้านในแอบทำให้ผมปรับโฟกัสไม่ทัน ผมกวาดมองรอบ ๆ ตัวด้วยความรู้สึกที่คุ้นเคยแต่ทว่าห่างหายไปนาน ตั้งแต่เข้าบริหารงานโรงเรียนและมหาวิทยาลัยแทนป๊าเต็มตัวผมก็ไม่ค่อยได้มาที่นี่อีกเลย จำได้ว่าครั้งล่าสุดน่าจะเป็นเมื่อประมาณปีที่แล้วตอนปิดภาคเรียนที่ 1 เนื่องจากผับแห่งนี้เป็นหนึ่งในธุรกิจของตระกูลถาวรเดชาฤทธิ์ และผมเองก็สนิทกับทายาททั้งสองของตระกูลนี้ดี เลยได้มีโอกาสมาเที่ยวที่นี่อยู่บ่อยครั้ง แม้จะไม่ได้มานาน แต่ผมก็ยังคงจดจำรายละเอียดของที่นี่ได้อย่างชัดเจน รู้...แม้กระทั่งทางลัดที่จะไปยังห้อง VIP ได้โดยไม่ต้องผ่านฝูงชนไปให้มากมาย "อ๊ะ!!" "!!!" แต่ในจังหวะที่ผมกำลังหมุนตัวเพื่อเดินเลี่ยงไปอีกทางนั้น ร่างของผมก็ไปชนเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินสวนมาอีกทาง และร่างเพรียวบางนั้นกำลังหงายล้มไปด้านหลัง ซึ่งโชคดีที่ผมคว้าเอวของเธอและดึงเข้าตัวไว้ได้ทันก่อนที่ร่างอรชรจะได้รับบาดเจ็บ "ขอบคุณค่ะ" น้ำเสียงเสนาะคุ้นหูรีบทำให้ผมช้อนสายตาขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยหัวใจที่เต้นถี่รัว "!?...โซเฟ...

EPISODE 5 อันตราย

  Sofia talk "อือ...ชอบ" ฉันวางดินสอในมือลง ก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้า เมื่อเสียงของมาร์ชที่เคยพูดกับฉันยังคงดังก้องซ้ำ ๆ อยู่ในหัวไม่หายไปไหน "=//=" หัวใจที่พาลเต้นแรงขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ทำเอาฉันไม่มีสมาธิทำงานทำการเอาเสียเลย "แกเป็นเพื่อนฉันนะ ฉันจะเกลียดแกได้ไง" แต่ในเวลาต่อมาความรู้สึกนั้นก็ถูกกระชากไป เพราะมีประโยคอื่นในบทสนทนาแทรกเข้ามาแทน "ไอ้มาร์ช!! ไอ้บ้า!!" ฉันรู้ว่าเขาไม่ผิด แต่มันผิดที่ฉันที่ไปหลงดีใจกับคำบอกชอบนั่นเอง พอได้แล้วโซเฟีย....เลิกคิดมากได้แล้ว แกกับเขาไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจากเพื่อนกัน ฉันหอบเอาหัวใจที่ห่อเหี่ยวกลับมาจดจ่อตั้งใจกับงานตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนที่เสียงเปิดประตูโดยไม่มีการเคาะจะเรียกสายตาของฉันให้ช้อนขึ้นมอง "นี่เป็นนางแบบที่แกให้ฉันไปหา" จริงใจที่ตอนนี้มีฐานะเป็นหุ้นส่วนของฉันส่งแฟ้มปกสีดำมาให้ ก่อนที่เธอจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม "คนอื่นฉันไม่มีปัญหา แต่ฉันติดอยู่คนสุดท้ายที่ชื่อ 'พอลล่า' เธอไม่ใช่นางแบบนี่" จากที่ฉันกวาดสายตาอ่านประวัติของผู้หญิงคนนี้คร่าว ๆ เธอเหมือนจะเป็นน...